ผู้เอาประกันภัย
ผู้เอาประกันภัย ทั้งมือใหม่และมือเก่า คุณทราบหรือไม่ว่า สำหรับเบี้ยประกันรถยนต์ที่เราต้องจ่ายกันทุก ๆ ปีนั้น สามารถ “ลด” ราคาลงได้ สำหรับข้อมูลในส่วนนี้โดยส่วนมากเชื่อว่าจะไม่ค่อยรู้เรื่องกันเท่าไหร่ หากไม่ใช่ท่านที่ศึกษาข้อมูลในส่วนนี้ ส่วนใหญ่มักมองข้าม
และอีกหนึ่งสาเหตุคือพนักงานเคลมโดยมากก็ไม่ยอมบอกรายละเอียดในเรื่องนี้เหมือนกัน สำหรับใครที่อยากรู้ว่าการขอลดเบี้ยประกันรถยนต์นั้น ทำได้อย่างไรบ้าง แล้วตัวเองคุณเองมีโอกาสใช้สิทธิ์ในส่วนนี้เพื่อใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้ไหม ลองมาเช็คกันดีกว่าว่า การลดเบี้ยประกันภัยจะต้องทำอย่างไรบ้าง เป็นวิธีการเตรียมตัวที่คุณเองก็สามารถทำได้
4 เทคนิคที่ผู้เอาประกันภัยต้องรู้
- ลดเบี้ยประกันแบบระบุผู้ขับในกรมธรรม์
รถยนต์ที่คุณใช้ หากเป็นคนขับคนเดียว ไม่ได้ให้พ่อแม่หรือญาติพี่น้องขับ แนะนำเลยว่าให้ระบุในกรมธรรม์ลงไปเลยว่าใครเป็นผู้ขับแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดเบี้ยประกันได้ถูกลงมากกว่าเดิมหลายเท่า บางบริษัทก็ให้เลือกกรอกชื่อผู้ขับขี่ได้เพียงคนเดียว แต่บางที่ก็มีให้ระบุลงไปได้ 2-3 คน
การลดเบี้ยประกันจะลดตามช่วงอายุของผู้ขับขี่ เริ่มจากช่วงอายุ 18-24 ปี จะลดได้ 5%, ช่วงอายุ 25-35 ปี ลดได้ 10%, ช่วงอายุ 36-50 ปี ลดได้ 15% และ ช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป สามารถลดได้ 20% ทั้งนี้หากตอนเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่ใช่คนที่ระบุเอาไว้เป็นผู้ขับ การเคลมประกันในเหตุการณ์นั้นก็ถือว่าเป็นโมฆะ บริษัทประกันมีสิทธิ์ที่จะไม่ต้องจ่ายเงินให้แก่คุณ
- ขับขี่ดี ไม่มีเคลมก็ลดได้
ส่วนลดเบี้ยประกันที่ใช้ดึงดูดผู้ขับขี่รถยนต์ที่น่าสนใจคือส่วนลดที่มาจากประวัติการขับขี่ หรือส่วนลดประวัติดี ซึ่งจะมีระบุเอาไว้ หากไม่มีการเคลมประกันเลยในช่วงระยะเวลาที่กำหนด ก็จะสามารถลดหย่อนได้ ซึ่ง ผู้เอาประกันภัย สามารถลดค่าเบี้ยได้สูงถึง 50% กันได้เลย
อาทิเช่น ไม่เคยเคลมมาก่อนตลอด 1 ปี จะได้ส่วนลดเบี้ยประกัน 20% ในปีต่อไป, ไม่มีการเคลมมาก่อน 2 ปีติดต่อกัน ได้ส่วนลด 30% และหากไม่เคยเคลมตลอด 5 ปีของการทำประกัน ก็จะได้รับส่วนลด 50% สำหรับรอบเบี้ยถัดไป เป็นต้น
- มีการระบุค่าเสียหายส่วนแรกเอาไว้
ค่าเสียหายส่วนแรกเป็นค่าเสียหายที่คุณต้องมั่นใจว่าพฤติกรรมการขับขี่ของตัวเองปลอดภัยอยู่ในระดับพอสมควร เพราะการระบุส่วนนี้คือค่าใช้จ่ายที่คุณตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นคนรับผิดชอบด้วยตัวเองในส่วนหนึ่ง ดังนั้นการเอาวิธีกำหนดค่าเสียหายส่วนแรกมาใช้ มีข้อดีอย่างมากสำหรับคนที่ขับขี่รถยนต์โดยไม่ประมาท
แต่หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาคุณก็จะต้องร่วมจ่ายกับบริษัทประกัน ตามจำนวนเงินที่ระบุเอาไว้ แต่ถ้าไม่มีการเคลมใด ๆ เกิดขึ้น แน่นอนว่าคุณจะได้รับการลดหย่อนค่าเบี้ยประกันได้อย่างมากมายทีเดียว
อ่านเพิ่มเติม : ค่า Excess คืออะไรกันแน่ ?
- เลือกความคุ้มครองให้เหมาะสมกับตัวเอง
ก็เพราะความกลัวทำให้เราพยายามหาทางปกป้องตัวเองไว้รอบด้าน กระจายความเสี่ยงให้มากที่สุด อย่างประกันภัยรถยนต์ เชื่อว่าใคร ๆ ก็ต้องอยากได้ประกันภัยชั้น 1 ด้วยกันทั้งนั้น แต่อย่าลืมว่าการคุ้มครองที่มาก ก็ต้องจ่ายด้วยดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันเกินจำเป็น คือตัดเอาการคุ้มครองที่ไม่จำเป็นออกไป แล้วเลือกใช้การคุ้มครองที่เหมาะสมกับตัวเอง ก็จะช่วยให้เบี้ยประกันถูกลง ไม่ต้องจ่ายหนักเหมือนเดิม ผู้เอาประกันภัย จะต้องศึกษาข้อมูลในการลดค่าเบี้ยประกันให้ดี
เนื่องจากส่วนใหญ่มักละเลยและที่สำคัญหลายท่านยังไม่ทราบว่าโดยปกติแล้วสามารถทำได้ แถมยังประหยัดเงินให้กับตัวคุณเอง แถมในบางบริษัทก็ยังมีวิธีลดค่าเบี้ยในแนวทางอื่นอีกมากมาย ใครที่อยากให้ตัวเองคุ้มค่า ก็ต้องเริ่มต้นตั้งแต่การมองหาประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสม
หรือการ เปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์ กันระหว่างแต่ละบริษัท แล้วดูว่าที่ไหนมีโปรโมชั่นลดหย่อนอย่างไรบ้าง เพียงแค่นี้ก็ช่วยให้การทำประกันกลายคุ้มค่าได้มากขึ้น การรักษาผลประโยชน์ของตัวเราเองถือเป็นพื้นฐานสำคัญ นอกจากจะช่วยในเรื่องลกค่าใช้จ่ายยังเป็นการรักษาประวัติที่ดีของผู้ทำประกันเพื่อโอกาสในการรักข้อเสนอที่ดีจากทางบริษัทในอนาคต